มิร่า (Daihatsu Mira) รุ่นต่างๆ ในประเทศไทย

Daihatsu Mira ชื่อนี้หลายๆ คน อาจจะรู้จักดี หรืออาจจะไม่รู้จักก็ตาม แต่ถ้าหากใครชอบรถเก่า รถเล็กๆ ที่หาที่จอดง่ายแสนง่าย Mira เป็นตัวเลือกหนึ่งที่หลายคนต้องหลงรักและชอบมัน บางคนไว้ใช้จ่ายตลาด บางคนไว้ขับไปโรงเรียน มหาลัย บางคนไว้เป็นรถสำรอง บางคนไว้ขับเที่ยว แต่รู้ไหมมันเป็นได้มากกว่านั้น มันเป็นทั้งรถแข่ง มีการจัดารแข่งขันในประเทศไทย เป็นทั้งรถทดลองพลังงานทางเลือก และอีกหลายๆ อย่างที่คุณยังไม่รู้ และผมก็อาจไม่รู้

เกริ่นมาตั้งนานแล้ว เข้าเรื่องละกัน: คุณรู้หรือไม่มีร่ามีกี่รุ่น คำตอบคือไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ครับแต่พอแจกแจงได้ตามภาพครับ เอาที่เคยเห็นในประเทศไทยละกันครับ

"ขออนุญาตนำภาพมาจากกูเกิ้ลนะครับ ไม่รู้รูปรถใครบ้าง เพื่อเป็นความรู้"

Mira L70
ลักษณะเด่น เก๋งหลังคาเหล็ก 3 ประตู กันชนหน้าหลังสั้น นำเข้ามาจากญี่ปุ่น เครื่องยนต์ที่ติดมากับตัวรถ จะมีสองรุ่นคือ EB 547cc, และ ED-10 847cc

Mira L80 Series เป็นมิร่ารุ่นแรกๆ ที่นำมาขายในไทยโดยศูนย์ไดฮัทสุเอง และยังเป็นรุ่นที่นิยมเอามาแต่งหล่อในปัจจุบัน เครื่องยนต์ที่ติดมากับตัวรถ คือ ED-10 847cc
Mira L80 P1
ลักษณะเด่น เป็นกระบะแท้ครับ แท้ตั้งแต่เกิดเลย ดูว่ากระบะแท้ยังไง หลักๆ คือ ฝาท้ายเป็นกลอนที่อยู่ในฝาท้ายครับ ไม่ใช่แบบกลอนประตูบ้าน และมีเหล็กยึดฝากระบะแบบ สองชิ้น ไม่ใช่โซ่หรือสลิงเส้น พื้นรถต้องมีรูระบายน้ำสองข้าง ถ้าเก๋งแปลงมาจะไม่มีรู ด้านในตรงช่องเก็บของหลังคนขับ จะมี เสาเหล็กสองต้น และท่อระบายน้ำจากกระบะ ถ้าเก๋งแปลงมาจะไม่มีเสา

Mira L80 P2
ลักษณะเด่น เก๋งมีหลังคาแครี่บอยด้านหลัง เปิดฝากระจกหลังได้ครึ่งบานบน วิธีเปิดต้องไขกุญแจหลังรถตรงกระจก เป็นรุ่นที่หาได้ง่ายเป็นอันดับสองรองจาก P4

 

Mira L80 P3
ลักษณะเด่น เก๋งมีหลังคาแครี่บอยด้านหลัง เปิดฝากระจกหลังได้ครึ่งบานบน วิธีเปิดกระจกหลังต้องดึงตัวเปิดใต้เบาะคนขับ

 

Mira L80 P4
ลักษณะเด่น เก๋งมีหลังคาแครี่บอยด้านหลัง เปิดฝาท้ายได้เต็มบาน กระจกหลังกว้างมากขึ้น เป็นรุ่นที่หาง่ายที่สุด ด้วยเหตุผลของการบรรทุกสามารถพับเบาะและเปิดประตูหลังเต็ม สามารถยัดของได้เยอะ

Mira L80 P7
ลักษณะเด่น เก๋งหรือกระบะมีหลังคาแครี่บอยด้านหลังแต่ลักษณะ เฉียงลง เปิดฝากระจกหลังได้ครึ่งบานบน วิธีเปิดต้องไขกุญแจหลังรถตรงกระจก จะมีกาบหรือเสกิร์ตข้างที่ใหญ่และเหมือนคลีบฉลาม เป็ตัวนึงที่หายาก ส่วนใหญ่จะถูกถอดหลังคาออกเพื่อแปลงเป้นกระบะที่ไม่มีหลังคา

 

Mira L80 Spacy A1

ลักษณะเด่น กระบะสองตอน มีกระบะท้ายเล็กน้อย มีกระจกหลังที่ใหญ่กว่ารุ่นอื่น มีความสปอร์ต โดยลักษณะกระจกตกแค๊ปเฉีียงไปหน้าเล็กน้อย และมีหางเป็ด สปอยเลอร์เล็กๆ บนหลังคา

Mira L80 Spacy A2

ลักษณะเด่น กระบะสองตอน มีกระบะท้ายเล็กน้อย มีหลังคาแครี่บอยปิดท้าย เปิดฝากระจกหลังได้ครึ่งบานบน วิธีเปิดต้องไขกุญแจหลังรถตรงกระจก ส่วนใหญ่นิยมนำมาถอดหลังคาเพื่อให้ดูเป็นกระบะแค๊ปมากขึ้น ลักษณะแค๊ปเหมือนจะเอนไปหลังเล็กน้อย ต่างจาก A1 ที่เอียงไปหน้า

Mira L80 Bigboy

ลักษณะเด่น กระบะหลังคาแครี่บอยสูง เปิดฝาท้ายได้เต็มบาน เป็นรุ่นนึงที่หายากมาก เหมาะแก่การบรรทุกของที่สูงขึ้นมาและไม่อยากให้เปียกตอนฝนตก มีบางคันไปตัดแผงกั้นกลางออก ทำเป็นเก๋ง โดยเอาเบาะของรุ่นเก๋งมาใส่แทน ทำให้เป็นเก๋งหลังคาสูงไปแทน และอีกลายคันเช่นกันก็ดัดแปลงเอาหลังคาออกทำเป็นกระบะตอนเดียยวแบบ P1 ปกติ

Mira Mint

ลักษณะเด่น เป็นรุ่นสุดท้ายที่ขายในไทย จริงๆ แล้วผมไม่รู้ว่ามันมีกี่โมเดลครับ แต่ที่เห็นๆ แบ่งออกเป็น 3 แบบ หลักๆ คือ แบบเก๋ง, กระบะสองตอน, กระบะตอนเดียว ทั้งสามรุ่นกันชนหน้าหลังจะเป็นเหล็กไม่ใช่พลาสติกเหมือนตระกูล L80 ตัวมินท์เก่งหลังคาจะเป็นเหล็กไม่ใช่หลังคาแครี่บอยเหมือนรุ่น L80 ฝาหลังเฉียงนิดหน่อย เปิดฝาท้ายได้เต็มบาน และที่ติดป้ายทะเบียนจะอยู่ตรงฝาหลัง ส่วนกระบะสองตอน จะมีส่วนของกระบะยาวกว่า L80 Spacy กระบะตอนเดียวเช่นกันจะมีกระบะยาวกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนเครื่องยนต์รู้สึกจะมี 2 โมเดลคือ ED-10 847cc และ ED-20 847cc

Mira Mint Plus กระบะแค๊ป

ส่วนรุ่นที่เหลือก็เป็นรุ่นที่นำเข้ามาทั้งนั้น หลังจากที่บริษัทไดฮัทสุเลิกขายในไทยไป ส่วนรุ่นที่นำเข้ามาและนิยมใช้กันในไทยก็ได้แก่ L500 Classic, L500 Moderno, L502, L512, L200, L200s, L700, Gino ในส่วนของรุ่นนำ เข้าผมจะแจกแจงให้อีกทีภายหลังครับ